-
โรคติดต่อทางเพศ
โรคติดต่อทางเพศเป็นอย่างไร?
โรคติดต่อทางเพศ หรือเรียกย่อว่า โรคเอสครั้งดี (Sexually transmitted disease /STD บางบุคคลเรียกว่าUFABET Sexually transmitted infection หรือเรียกย่อว่า โรคเอสคราวไอ/STI) ชาวไทยมักเรียกว่า กามโรค โรคชาย หรือโรคผู้หญิง (Venereal disease หรือเรียกย่อว่า โรควีดี/ VD) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสทางเพศ เชื้อโรคจะติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งโดยผ่านทางเลือด น้ำกาม สารคัดเลือกหลั่งจากช่องคลอด หรือสารคัดเลือกหลั่งจากส่วนอื่นๆของร่างกาย ในบางคราว โรคติดต่อทางเพศชมรมบางทีอาจติดต่อได้แม้ว่าจะไม่มีการสัมผัสทางเพศก็ตาม ดังเช่นว่า จากแม่สู่เด็กอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นได้อีกทั้งในตอนที่มีครรภ์รวมทั้งจากการคลอด หรือบางทีอาจติดเชื้อโรคจากการได้รับเลือด หรือจากเข็มฉีดยาที่ใช้ด้วยกัน
การติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมบางทีอาจเจอได้ แม้กระทั้งในเรื่องที่มีชมรมทางเพศกับบุคคลซึ่งดูมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคนที่เป็นโรคบางทีอาจไม่ปรากฏอาการให้มองเห็นอย่างแจ่มแจ้ง
ลักษณะโรคติดต่อทางเพศสโมสรคืออะไร?
ลักษณะของโรคติดต่อทางเพศสมาคมมีนานัปการ บางทีบางทีอาจไม่ปรากฏอาการให้มองเห็นจวบจนกระทั่งมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้วจึงทราบดีว่าเป็นโรค หรือทราบดีว่าตนเองบางทีอาจติดเชื้อโรคก็เมื่อคู่รักได้รับการวิเคราะห์ว่าติดเชื้อโรคแล้ว
อาการที่บางทีอาจชี้ว่าติดเชื้อโรคแล้ว มีดังต่อแต่นี้ไปเป็นลักษณะของการเจ็บ หรือมีก้อนบวม (Lump) หรือแผล ที่รอบๆปากแล้วก็ทวารหนัก ฉี่แสบขัด มีน้ำหรือหนองออกมาจากอวัยวะสืบพันธุ์ชาย หรือจากช่องคลอด มีเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติจากช่องคลอด มีต่อมน้ำเหลืองบวม หรือมีลักษณะปวดที่รอบๆต่อมน้ำเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขาหนีบ ฯลฯ
หลังจากที่มีการสัมผัสโรค ช่วงเวลาที่จะปรากฏอาการ (ระยะฟักตัวของโรค) หรือมีรอยโรคเกิดขึ้น บางทีอาจใช้เวลา 2-3 วันจนกระทั่ง 3 เดือน ในบางราย อาการหรือรอยโรคที่ปรากฏบางทีอาจหายได้เองข้างใน 2-3 อาทิตย์แม้ว่าจะมิได้รักษาก็ตาม อย่างไรก็ตาม อาจมีการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ โรคที่เคยหายไปบางทีอาจร้ายแรงขึ้น แล้วก็นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ในตอนหลัง ฉะนั้นเมื่อมีการสัมผัสทางเพศกับคนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศชมรม หรือมีลักษณะ หรือมีรอยโรคที่ชักชวนสง สัยว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร ควรจะรีบหารือหมอ นอกจากนั้น ควรจะขอความเห็นหมอเพื่อตรวจคัดเลือกกรองโรคติดต่อทางเพศสมาคม (การตรวจโรคในขณะยังไม่มีอาการ) ตั้งแต่ทีแรกก่อนจะมีการสัมผัสทางเพศ และก็ควรจะตรวจเป็นช่วงๆตามหมอชี้แนะ หากแม้จะมีคู่รักเพียงผู้เดียวก็ตาม ในกรณีมีคู่รักหลายๆคน ควรจะตรวจโรคนี้ทุกหนก่อนและก็ข้างหลังมีคู่รักคนใหม่ หรือตามคำแนะนำของหมอ เพื่อคุ้มครองโรคติดต่อสู่คนอื่นๆ รวมทั้งเพื่อการดูแลและรักษาตนเองแม้กระนั้นเนิ่นๆ
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีอะไรบ้าง?
เชื้อโรคที่ส่งผลให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีดังนี้
แบคทีเรีย อาทิเช่น โกโนเรีย หรือโรคหนองในแท้/โรคหนองใน, โรคซิฟิลิส /โรคซิฟิลิส, คลามัยเดีย (Chlamydia infection) หรือโรคหนองในเทียม
พยาธิ ประเภท ทริวัวโมแนส (Trichomonas vaginalis)
เชื้อไวรัส ตัวอย่างเช่น เชื้อ Human papillomavirus/HPV/เอชพีวี, เชื้อเริม/เริมที่อวัยวะสืบพันธุ์, เชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง/โรคภูมิคุมกันบกพร่อง หรือ Human immunodeficiency virus/HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง
อนึ่ง การมีกิจกรรมทางเพศเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การติดโรค แต่ เชื้อโรคบางชนิดบางทีอาจติดเชื้อโรคได้แม้จะไม่มีกิจกรรมทางเพศก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบ ประเภทเอ (เชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ) แล้วก็ประเภทบี (เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี) ฯลฯ ที่บางทีอาจติดต่อจากการให้เลือด หรือการใช้เข็มฉีดยาด้วยกัน
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีอะไรบ้าง?
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญของโรคติดต่อทางเพศสมาคม เป็นการมีกิจกรรมทางเพศ โดยเฉพาะในเรื่องที่มิได้สวมถุงยางชายจำพวกลาเท็กซ์ (Latex condom) แล้วก็การมีเพศ สโมสรทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก กับคนที่เป็นโรคหรือผู้ติดโรค มีข้อมูลการค้นคว้าที่ทำให้เห็นว่า เพศหญิงที่ร่วมเพศเพียงแต่ครั้งเดียวกับเพศชายที่มีเชื้อโกโนเรีย หรือโรคหนองในแท้โดยไม่สวมถุงยางอนามัย จะได้โอกาสติดเชื้อโรคราว 70-80%
การใส่ใส่ถุงยางชายที่ผิดแนวทาง หรือมีการสวมบ้างไม่สวมบ้างนั้น เป็นการเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดเชื้อโรค นอกนั้น การเสี่ยงจะเพิ่มสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว -ตามปริมาณของคู่รัก -ตามเรื่องราวเป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคม ซึ่งเมื่อเคยเป็นโรคประเภทหนึ่ง ก็จะมีผลให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสโมสรอีกประเภทหนึ่งได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังเช่นว่า ถ้าเกิดคุณเป็นโรคเริม/โรคเริมที่ของลับ, กามโรค/โรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้/โรคหนองใน, หรือโรคหนองในเทียม และก็ร่วมเพศกับคนที่มีเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง หรือ ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง/HIV กรณีนี้คุณได้โอกาสที่จะติดเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องเพิ่มสูงมากขึ้น
การติดเหล้า และก็/หรือสารเสพติด ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับการตกลงใจห่วยลง อันจะนำพาไป สู่การมีเพศสัม นธ์กับคนที่มีความประพฤติปฏิบัติเสี่ยงทางเพศได้
การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่นๆอาจจะส่งผลให้มีการติดเชื้อโรคกลุ่มนี้ได้ เป็นต้นว่า เชื้อไวรัส HIV หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี แล้วก็เมื่อติดโรคแล้ว ก็สามารถแพร่เชื้อต่อโดยผ่านการร่วมเพศได้อีกด้วย
แล้วก็ในหญิงวัยรุ่น ซึ่งเซลล์รอบๆปากมดลูกยังรุ่งเรืองไม่สุดกำลัง ก็เลยมีการเปลี่ยนของเซลล์ตลอดระยะเวลา เซลล์ในระยะเวลาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้จะไวต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสโมสรได้อย่างสะดวกสบาย
การตำหนิดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกนั้น เจอได้สำหรับการติดเชื้อโรคโรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, เริม และก็กามโรค โดยมีการติดโรคได้อีกทั้งในขณะตั้งท้องและก็ในขณะคลอด เด็กทารกที่ติดโรคจะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นตามมาออกจะมากมาย (ยกตัวอย่างเช่น เจริญวัยแตกต่างจากปกติแล้วก็ทุพพลภาพ) และก็บางทีอาจเสียชีวิตได้ ดัง นั้นสตรีที่ตั้งท้องจะต้องจำต้องได้รับการตรวจคัดเลือกกรอง รวมทั้งรักษาโรคต่างๆดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างเหมาะควร
ควรจะจัดแจงก่อนเจอหมอเช่นไร?
การตระเตรียมก่อนเจอหมอเป็นควรจะกระทำนัดแนะเพื่อเจอหมอ เขียนบันทึกอาการต่างๆที่เกิดขึ้น ยาที่เคยใช้ รวมทั้งกำลังใช้อยู่ ตลอดจนปริศนาที่อยากถามหมอ
ปัญหาฐานรากที่ควรจะไต่ถามหมอ อาทิเช่น
โรคติดต่อทางเพศชมรมที่คุณเป็น มีชื่อทางด้านการแพทย์ว่าอะไร?
โรคดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีการติดต่อเช่นไร?
มีแนวทางคุ้มครองป้องกันที่จะไม่ให้ติดไปสู่ลูกได้ยังไง?
ถ้าเกิดมีการตั้งท้อง จะมีแนวทางคุ้มครองป้องกันไม่ให้ทารกในท้องติดเชื้อโรคได้หรือเปล่า?
ถ้าหากรักษาหายแล้วจะกลับมาเป็นอีกได้หรือเปล่า?
การมีเซ็กส์เพียงแต่ครั้งเดียวจะก่อให้ติดเชื้อได้ไหม?
แพทย์มีความรู้สึกว่าฉันติดเชื้อโรคมานานเท่าใด?
ช่วงเวลาที่กำลังรักษาจะมีเซ็กส์ได้ไหม?
คู่รักต้องมาเจอหมอด้วยไหม? ฯลฯ
เมื่อเจอหมอ คุณควรจะมอบบันทึกอาการหรือUFABET บอกกล่าวอาการต่างๆที่คุณเป็นให้หมอได้ รับทราบ ตลอดจนเรื่องราวมีเซ็กส์ หรือความประพฤติปฏิบัติทางเพศ
หมอบางทีอาจถามคุณในสิ่งตั้งแต่นี้ต่อไป
คุณมีความรู้สึกว่าคุณติดเชื้อติดต่อทางเพศสโมสรหรือเปล่า?
ทำไม?
คุณร่วมเพศกับเพศชายหรือสตรีหรือทั้งคู่เพศ?
คุณมีชมรมทางเพศกับผู้เดียวหรือกับผู้คนจำนวนมาก?
คุณร่วมเพศกับคู่รักคนเดี๋ยวนี้ (ผู้เดียวหรือคนไม่ใช่น้อยก็ตาม) เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเท่า ไหร่?
คุณเคยฉีดยาให้ตนเองไหม?
คุณเคยร่วมเพศกับคนที่ฉีดยาเสพติดหรือเปล่า?
คุณรู้จักแนวทางปกป้องตนเองจากการติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมไหม?
คุณคุมกำเนิดหรือเปล่า?
คุมกำเนิดโดยแนวทางไหน?
คุณเคยเป็นโรคโรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, โรคเริม/โรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์, โรคซิฟิลิส หรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง/ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องไหม?
คุณเคยรักษาตกขาวไม่ปกติ, แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์, เยี่ยวแสบขัด หรือโรคติดเชื้อที่ของลับไหม?
คุณร่วมเพศหนสุดท้ายเมื่อไร? ฯลฯ
มีวิธีการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคอย่างไรบ้าง?
ในเรื่องที่เรื่องราวมีเซ็กส์และก็อาการระบุว่าคุณอาจติดโรค การตรวจเพิ่มเติมอีกทางห้องทดลองจะช่วยรับรองการวิเคราะห์โรค แล้วก็ตรวจค้นโรคติดเชื้ออื่นๆที่บางทีอาจเจอร่วมได้
การตรวจทางห้องทดลองเสริมเติม บางทีอาจทำเป็นโดยการตรวจ เลือด น้ำลาย และก็/หรือสารคัดเลือกหลั่ง ดังเช่น จากแผล แล้วก็จากน้ำฉี่ การตรวจคัดเลือกกรองโรคภูมิคุมกันบกพร่องในคนที่ไม่มีอาการ ทำเป็นโดยการวิเคราะห์เลือด หรือตรวจน้ำลาย
ในสตรีที่ตั้งท้องทุกราย หมอจะกระทำการตรวจคัดเลือกกรองโรคภูมิคุมกันบกพร่อง, การตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี รวมทั้งโรคซิฟิลิส หมอจะกระทำตรวจคัดเลือกกรองโรคหนองในแท้ แล้วก็การต่อว่าดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี เสริมเติมเฉพาะในคนที่มีการเสี่ยงที่จะติดโรคดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ในสตรีที่มีเซ็กส์แล้ว หรือแก่ตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ควรจะเข้ารับการตรวจคัดเลือกกรองความไม่ดีเหมือนปกติของปากมดลูก ที่สำคัญดังเช่น การอักเสบ, ความเคลื่อนไหวของเซลล์ในระยะก่อนเป็นโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสิ่งกลุ่มนี้มีต้นเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัสที่มีชื่อเรียกว่า HPV/เอชพีวี
ในเพศชายที่ร่วมเพศกับเพศชาย จะมีการเสี่ยงสูงสำหรับการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัม พันธ์ ฉะนั้นควรจะเข้ารับการตรวจคัดเลือกกรองโรคต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคภูมิคุมกันบกพร่อง, โรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, โรคเริม/โรคเริมของลับ, และก็การตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี อย่างต่ำปีละ 1 ครั้ง
การตรวจคัดเลือกกรองการต่อว่าดเชื้อโรคหนองในแท้และก็โรคหนองในเทียม พึงกระทำในสตรีที่มีเพศ สโมสรแล้ว รวมทั้งควรจะทำอีกทุกคราวเมื่อเปลี่ยนแปลงคู่รักคนใหม่
ในคนที่ติดเชื้อโรค HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง จะมีการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคมเพิ่มสูง ขึ้น ด้วยเหตุนั้นควรจะรับการตรวจคัดเลือกกรองโรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม แล้วก็โรคเริม นอก จากนี้หญิงที่ติดโรค HIV จะได้โอกาสสำหรับเพื่อการกำเนิดโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีความร้ายแรงมากมาย ดัง นั้นควรจะตรวจคัดเลือกกรองโรคมะเร็งปากมดลูก แล้วก็ตรวจค้นการตำหนิดเชื้อ HPV ปีละ 2 ครั้ง ในเพศชายที่ติดโรค HIV ควรจะตรวจคัดเลือกกรองการต่อว่าดเชื้อ HPV ที่ทวารหนักด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่ร่วมเพศทางทวารหนัก เนื่องจากว่าการต่อว่าดเชื้อดังกล่าวข้างต้นอาจจะส่งผลให้กำเนิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นมาจากโรคติดต่อทางเพศสมาคมมีอะไรบ้าง?
แนวทางคุ้มครองปกป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อน (ผลกระทบ) สาเหตุจากการเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร เป็นการตรวจคัดเลือกกรองเพื่อวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น รวมทั้งรีบให้การรักษา แบบนี้ก็เพราะผู้ติดโรคในระยะเริ่มต้นหลายรายชอบไม่มีอาการ ไหมมีความผิดธรรมดา
ภาวะแทรกซ้อนที่บางทีอาจเจอได้ เป็นต้นว่า ลักษณะของการปวดหรือมีก้อนบวมที่แห่งใดก็ได้ภายในร่างกาย มีอา การเจ็บเป็นๆหายๆที่ของลับ มีผื่นแดงที่ผิวหนังทั่วร่างกาย มีลักษณะอาการเจ็บขณะมีเซ็กส์ มีลักษณะอาการเจ็บ บวม แดงที่ลูกอัณฑะ ปวดอุ้งเชิงกราน (ท้องน้อย) เรื้อรัง มีฝีหนองที่ขาหนีบ ดวง ตาอักเสบ ข้ออักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ (การตำหนิดเชื้อในอุ้งเชิงกราน) มีลูกยาก แล้วก็โรคมะเร็งที่อวัยวะอื่นๆดังเช่นว่า โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในผู้ติดโรค HIV โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งที่ลำ ไส้ตรง/โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือโรคมะเร็งทวารหนักในคนที่ติดเชื้อโรค HPV การตำหนิดเชื้อต่างๆในคนที่เป็นโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ตลอดจนการต่อว่าดเชื้อของลูกในท้องในหญิงมีท้องที่เป็นโรค อันจะมีผลให้เป็นอันตราย และก็ความไม่ปกติ/ความพิกลพิการโดยกำเนิดของเด็กอ่อนได้
มีแนวทางรักษาโรคติดต่อทางเพศสมาคมเช่นไร?
โรคติดต่อทางเพศชมรมที่เกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อแบคทีเรีย สามารถรักษาได้อย่างไม่ยากเย็น ส่วนโรคติดต่อทางเพศชมรมที่เกิดขึ้นมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส สามารถรักษาแล้วก็ควบคุมโรคได้ แม้กระนั้นชอบไม่หายสนิท ถ้าหากตรวจเจอว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศชมรมขณะท้อง การดูแลและรักษาที่สมควรจะสามารถลดการเสี่ยงของการตำหนิดเชื้อไปสู่ลูกในท้องได้
การดูแลรักษามีสิ่งต่างๆตั้งแต่นี้ต่อไป ตัวอย่างเช่น
การให้ยายาปฏิชีวนะเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อพยาธิ ดังเช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคซิฟิลิส รวมทั้งทริวัวโมแนส หรือการให้ยาต้านทานเชื้อไวรัส ในกรณีที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัม พันธ์ที่เกิดขึ้นจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส ยกตัวอย่างเช่น โรคเริม/โรคเริมที่ของลับ โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ฯลฯ สุดแท้แต่กรณี การให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสทำให้สามารถควบคุมการตำหนิดเชื้อ HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง ได้นับเป็นเวลาหลายปี แม้เชื้อไวรัส HIV จะยังคงอยู่ภายในร่างกาย รวมทั้งสามารถถ่ายทอดสู่คนอื่นๆได้ก็ตาม ถ้าหากคุณสัมผัสกับคนที่ติดโรค HIV แล้วก็เริ่มกินยาด้านใน 28 วันหลังจากสัมผัสผู้ติดโรค คุณอาจเลี่ยงการติดโรคได้
งดเว้นมีเซ็กส์จนกระทั่งจะรักษาโรคหายแล้ว
การตรวจติดตามวันหลังการดูแลและรักษา เพื่อความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าหายจากโรคแล้วไหม ถ้าเกิดไม่อาจจะใช้ยาจากที่หมอสั่งได้ ควรจะหารือหมอเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษา
การปกป้องการต่อว่าดเชื้อไปยังคู่รัก ถ้าพบว่าคุณเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร คุณควรจะบอกให้คู่รักของคุณคนเดี๋ยวนี้ รวมทั้งคู่รักในสมัยก่อนภายในช่วงระยะเวลา 3-12 เดือนรู้ เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาที่สมควรถัดไป ความประพฤติดังที่กล่าวมาแล้วจะช่วยลดการแพร่ของโรค ติดต่อทางเพศสโมสรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคซิฟิลิสแล้วก็โรคภูมิคุมกันบกพร่อง จากการที่โรคต่างๆที่กล่าวมาติด ต่อผ่านการสัมผัสทางเพศ ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าหากคู่รักของคุณติดเชื้อจากคุณ และไม่ได้รับการดูแลรักษาที่สมควร ถึงแม้คุณจะรักษาหายรวมทั้งตาม คุณก็ได้โอกาสที่จะติดโรคอีกรอบจากคู่รักของคุณได้
แนวทางคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศชมรมมีอะไรบ้าง?
การไม่มีเซ็กซ์เป็นแนวทางเหมาะสมที่สุดสำหรับในการคุ้มครองป้องกันการเป็นโรคติดต่อทางเพศชมรม (แม้กระนั้นเกิดเรื่องเป็นได้ยาก) นอกเหนือจากนั้น การไม่แปลงคู่รักบ่อยมาก ไม่มีคู่นอนหลายท่าน แล้วก็การอยู่กับคู่รักที่ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคมอย่างคงทน จะช่วยลดช่องทางการเป็นโรคได้ การฉีดยาคุ้มครองป้องกันการตำหนิดเชื้อ HPV (วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูก) และก็วัคซีนคุ้มครองป้องกันการต่อว่าดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สมควรก่อนจะเริ่มร่วมเพศจะช่วยลดช่องทางการต่อว่าดเชื้อไวรัสพวกนี้ได้ การฉีดยาคุ้มครองปกป้องการตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ในประเทศไทย ชอบเริ่มตั้งแต่ขณะอยู่ในวัยเด็ก ส่วนการฉีดยาคุ้มครองการตำหนิดเชื้อ HPV ชอบเสนอแนะให้สตรีฉีดในช่วงอายุ 9-26 ปี
ในกรณีที่จะร่วมเพศกับคู่รักคนใหม่ คุณแล้วก็คู่คนใหม่ควรจะเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสมาคมก่อนจะมีเซ็กส์
ควรที่จะใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดช่องทางติดเชื้อ อย่างไรก็แล้วแต่แม้ใช้สารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อหล่อลื่นถุงยางประเภทลาเทกซ์ ความประพฤติดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะลดคุณภาพสำหรับเพื่อการปกป้องการติดโรคติดต่อทางเพศชมรม เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เนื้อยางเสีย การยืดหยุ่นของยางต่ำลง ถุงยางอนามัยก็เลยแตกได้ง่าย แล้วก็ยังลื่นหลุดได้ง่ายอีกด้วย
ควรจะเลี่ยงการดื่มสุรามากจนเกินความจำเป็น แล้วก็การใช้ยาเสพติด เนื่องจากพฤติกรรมดัง กล่าว จะก่อให้คุณขาดความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการควบคุมตัวเอง และก็ทำให้เกิดการมีเซ็กส์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศชมรม
ควรจะหลบหลีกการมีเซ็กส์กับไม่รู้จะ หรือการร่วมเพศกับคู่รักที่รู้จักทางอินเทอร์เนต ในบาร์ หรือสถานที่เที่ยวต่างๆเป็นการเพิ่มการเสี่ยงอย่างยิ่งสำหรับในการติดเชื้อโรค ติดต่อทางเพศชมรม
ก่อนจะมีชมรมทางเพศ ควรจะเสวนาแล้วก็ตกลงกับคู่ของคุณในเรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัม พันธ์ที่ปลอดภัยว่า กิจกรรมใดที่ควรจะทำและไม่ควรจะทำ
ในคนที่มีลูก ควรจะปลูกฝังให้มีความประพฤติทางเพศที่สมควรในวัยอันควรจะ เพราะการร่วมเพศขณะอายุยังน้อยจะเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย
การร่วมเพศกับคู่เพียงผู้เดียวจะช่วยลดช่องทางการต่อว่าดเชื้อได้
การขลิบอวัยวะสืบพันธุ์ชายจะช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการที่เพศชายจะติดเชื้อโรค HIV จากเพศหญิงที่เป็นโรคได้ถึง 50-60% นอกเหนือจากนั้นการขลิบยังช่วยลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดโรค HPV และก็เริมได้อีกด้วย
อนึ่ง วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีในตอนนี้จะคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกเฉพาะที่กำเนิดกับเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ย่อย 16 และก็ 18 (คุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูกได้ราว 70%) ไม่อาจจะคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่เกิดขึ้นจากสายพันธุ์ย่อยอื่นๆได้ แม้กระนั้นมีรายงานจากสถาบันจุฬาภรณ์ (พุทธศักราช 2556) ว่า ต้นสายปลายเหตุจำนวนมากของโรคมะเร็งปากมดลูกของหญิงไทย เป็นสายพันธุ์ย่อย 52 และก็รองลงมาเป็น 16 โดยเหตุนี้ การฉีดยานี้ก็เลยคงจะมีสาระน้อยในหญิงไทย
จะประพฤติเช่นไรเมื่อเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร?
เมื่อสงสัยว่าตัวเองบางทีอาจติดเชื้อติดต่อทางเพศสโมสร ควรจะรีบหารือหมอ ควรจะงดเว้นการร่วมเพศเพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อไปยังบุคคลอื่น กระทั่งผลของการตรวจจะรับรองว่าคุณมิได้เป็นโรค หรือถ้าหากเป็นโรคก็ควรจะงดเว้นการมีเซ็กส์ กระทั่งคุณจะรักษาโรคกระทั่งหายก็ดี
การเป็นโรคติดโรคทางเพศสมาคม นำมาซึ่งผลด้านจิตใจค่อนข้างจะมากมาย คุณอาจรู้สึกโกรธเหมือนกับถูกคิดคดทรยศจากผู้ที่คุณรัก ละอายเมื่อทราบว่าโรคที่เป็นบางทีอาจติดไปสู่คู่รักของคุณได้ และก็ที่ห่วยแตกที่สุดเป็น โรคบางสิ่งบางอย่างอาจจะทำให้คุณป่วยหนักตลอดชาติ รวมทั้งเสียชีวิตได้ ทั้งบางทีอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในเรื่องชีวิตครอบครัว การมีลูก ตลอดจนทัศนคติต่อการมีเซ็กส์
อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่สมควรโทษผู้ใดกันแน่ การได้รับเชื้อบางทีอาจมิได้มีเหตุที่เกิดจากคู่รักคนปัจจุบันนี้ แม้กระนั้นอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากคู่รักคนเดิมที่ผ่านมาของคุณUFABET หรือของคู่รักคนเดี๋ยวนี้ หรือทั้งสอง
สิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็น การเรียนที่จะปกป้องการติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมตั้งแต่วันนี้ดังได้กล่าวแล้ว
-
Commentaires