•  

    น้ำลายที่มีเลือดปน หรือน้ำลายปนเลือด หรือน้ำลายเป็นเลือด (Blood in saliva) หมายถึง เมื่อบ้วนน้ำลายจะเห็นมีเลือดสดหรือเป็นเลือดค้างเก่าสีคล้ายกาแฟดำหรือสีน้ำตาลปนออกมาเล็กน้อยโดยไม่ได้มีเสมหะเป็นเลือด ซึ่งเสมหะจะต่างจากน้ำลายที่จะมีสารเหนียวๆเป็นเมือกปนออกมาด้วย

     

    การมีเลือดสดปนในน้ำลายมักมีสาเหตุเกิดจากมีแผลหรือมีการอักเสบในช่องปาก (เหงือก ลิ้น เพดาน เยื่อบุช่องปาก กระพุ้งแก้ม เนื้อเยื่อใต้ลิ้น และในลำคอ)

     

    น้ำลายปนเลือดอาจร่วมกับอาการเจ็บในตำแหน่งที่มีเลือดออก หรือได้รับอุบัติเหตุ หรือ บาดเจ็บเช่น กัดลิ้นตนเอง หรือเคี้ยวอาหารแข็งๆ แปรงฟันรุนแรง หรือขนแปรงแข็ง เป็นต้น

     

    บางครั้งที่พบได้น้อยอาจเกิดจาก

    น้ำลายมีเลือดบน

    โรคเลือดที่เป็นสาเหตุUFABETให้มีเกล็ดเลือดต่ำซึ่งมักเกิดน้ำลายปนเลือดเรื้อรัง ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดเช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด โรคมะเร็งของเนื้อเยื่อในช่องปาก (โรคมะเร็งช่องปาก) และในลำคอเช่น มะเร็งคอหอย

    เมื่อมีน้ำลายเป็นเลือดเฉียบพลันและเมื่อเกิดจากอุบัติเหตุเล็กน้อยของช่องปาก อาการมักหายได้เองภายใน 2 - 3 วัน รักษาดูแลตนเองได้โดยรักษาความสะอาดในช่องปากและดื่ม น้ำสะอาดมากๆเพื่อป้องกันภาวะปากแห้ง คอแห้ง ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล

     

    ควรพบแพทย์เมื่อมีน้ำลายปนเลือดเรื้อรัง มีแผลในช่องปากเรื้อรัง เลือดออกมาก และ/ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วยเช่น มีไข้ หรือเจ็บคอ เจ็บในช่องปากมาก UFABETหรือปากมีกลิ่น/มีกลิ่นปาก เป็นต้น



    votre commentaire
  •  

    มิสเตอร์ บีน

    มิสเตอร์ บีน

    มิสเตอร์ บีน UFABET เป็นตัวละครหลัก เล่นบทโดย โรแวน แอทคินสัน เป็นผู้ที่ลักษณะที่ไม่ค่อยเสมือนคนอื่นๆ เป็นคนถูกใจประดิษฐ์ (แต่ว่าไม่ได้เรื่อง) มีสหายที่มิสเตอร์บีนรักเยอะที่สุดเป็น เท็ดดี้ มีคู่รักเป็น ไอรมา ก็อบ มิสเตอร์ บีน ดำเนินงานอยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติ ลอนดอน เป็นพยาบาลความปลอดภัย (รปภ.) มิสเตอร์ บีนเป็นมีเสียงทุ้ม (ได้แก่บอกชื่อจริงเอง บีน) แต่ว่าถ้าหากบอกติดต่อกัหลายๆคำ จะบอกเร็ว ในตอนแรกมิสเตอร์ บีน เป็นผู้เรียนที่เก่งในวิชา ตรีโกณมิติ ในรูปภาพยนตร์เรื่อง บีน เดอะมูฟวี่ ชื่อมิสเตอร์ บีน เรียกว่าจะเรียกว่า บีน ตัดคำว่า มิสเตอร์ (นอกจากตอนที่อยู่ที่ลอนดอน) แม้กระนั้นในรูปภาพยนตร์เรื่อง มิสเตอร์บีน พักร้อนนี้มีฮา ในหนังสือเดินทาง จะเขียนชื่อมิสเตอร์ บีนว่า โรวัน

     

    ในตอนเปิดตัวมิสเตอร์บีนตกจากฟ้าจากลำแสงสีขาวเลยมีข้อสมมติฐานว่าเป็นมนุษย์ดาวอื่น

    มิสเตอร์บีน

    เท็ดดี้

    เท็ดดี้เป็นหมีเท็ดดี้เป็นเพื่อนที่มิสเตอร์บีนรักเยอะที่สุด มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล เท็ดดี้เคยมีอันตรายถึง 2 ครั้งร่วมกัน หนแรกโดนกระเป๋างับคอ (ในตอน Mr. Bean in Room 426) ตัวหดลงจากวิธีสำหรับซักผ้า (ในตอน Tee Off, Mr. Bean)

     

    เท็ดดี้มีลักษณะที่ไม่เหมือนกันในตอน The Trouble with Mr. Bean หัวจะเล็ก แม้กระนั้นใน 2 ตอนถัดมา หัวจะค่อนข้างจะใหญ่แล้วก็ตาทำจากกระดุม

    ไอรมา ก็อบ

    สวมบทบาทโดย มาทิลดา ซีเกลา เป็นแฟนของมิสเตอร์บีน

    รถยนต์ของมิสเตอร์บีน

    รถยนต์ของมิสเตอร์บีนเป็นรถยนต์สมัย 70 เป็นรถยนต์ไม่นิ ในตอนแรกรถยนต์ของมิสเตอร์บีนเป็นสีส้มทะเบียนรถยนต์เป็น RNT 996H แต่จำเป็นต้องพังทลายเนื่องจากว่ามิสเตอร์บีนขับขี่รถชนกำแพง จนถึงถัดมาตั้งแต่ตอนที่ 3 เป็นต้นมารถยนต์ของมิสเตอร์บีนเลยต่อรถเป็นสีเขียวรวมทั้งทะเบียนรถยนต์เป็น SLW 287R รถยนต์ของมิสเตอร์บีนราค้าง 57 ปอนด์

    มิสเตอร์บีน ไม่ใช่มนุษย์ดาวอื่นUFABET  แม้กระนั้นเพื่อเพิ่มความฮาเลยสร้างฉากตกมาจากฟ้า


    votre commentaire
  • โรคหนองใน (Gonorrhea) เป็นโรคติดเชื้อที่สามารถแพร่จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้จากการมีเพศสัมพันธ์ UFABET เกิดจากเชื้อหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เจริญได้ดีในที่ชื้น และที่อบอุ่นของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งแต่ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะ (ทั้งหญิงและชาย) นอก จากนี้ยังสามารถเจริญในที่อื่นๆได้ เช่น เยื่อบุช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก เป็นต้น

     

    ในอเมริกา มีการปร

    โรคหนองใน

    ะมาณการติดเชื้อโรคหนองในรายใหม่ ปีละประมาณ 700,000 ราย แต่ที่รายงานมายังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (CDC, Centers for Disease Control and Prevention) ในปี พ.ศ. 2552 เพียง 301,174 ราย หรือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น สำหรับในประเทศไทย รายงานโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2551 มีจำนวน 6,168 ราย คิดเป็น 15.43% ของผู้ป่วยโรค ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด หรือคิดเป็น 9.76 ต่อประชากร 100,000 คน

     

    ติดโรคหนองในได้อย่างไร? ใครมีปัจจัยเสี่ยง?

    โรคหนองใน เกิดได้จากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก องคชาต (อวัยวะเพศชาย) โดยอาจมี หรือไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิก็ได้ นอกจากนี้ UFABET ยังอาจติดจากมารดาสู่ทารกในระหว่างการคลอดได้

     

    ผู้ที่เป็นโรคหนองใน หลังจากได้รับการรักษาแล้ว หากสัมผัสโรคอีก ก็เป็นโรคซ้ำได้

     

    อนึ่ง ปัจจัยเสี่ยงของโรคหนองใน คือ คนที่มีเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วจะมีความเสี่ยง หรือมีโอกาสที่จะเป็นโรคได้ นอกจากนั้น จะมีความเสี่ยงสูงใน

     

    กลุ่มวัยรุ่น

    คนที่มีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน

    เคยเป็นโรคนี้มาแล้ว และ/หรือ เคยเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆมาแล้ว เช่น โรคซิฟิลิส (Syphilis)

    ไม่มีการใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์

    ผู้ติดยาเสพติด

    โรคหนองในมีอาการอย่างไร?

    อาการของโรคหนองในที่พบได้บ่อย คือ

     

    ในชายระยะฟักตัวของโรค) โดยจะมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลจากปลายองคชาต บางรายมีอาการปวด และบวมของถุงอัณฑะ บางคนอาจไม่มีอาการ หากมีอาการมักจะปรากฏใน 1-14 วัน หลัง จากสัมผัสคนที่เป็นโรค (

    ในหญิงประจำเดือน แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง) จากการติดเชื้อที่รุนแรงมากกว่าชาย ไม่ว่าจะมีอาการติดเชื้อมากหรือน้อยก็ตาม มักไม่มีอาการได้เช่นกัน หรืออาการไม่มาก โดยอาจมีปัสสาวะแสบขัด ตกขาว มีเลือดออกทางช่องคลอดระหว่างรอบเดือน หรือ

    ทั้งในชาย และหญิง หากติดเชื้อในทวารหนัก อาจมีอาการคัน ปวด โดย เฉพาะเวลาขับถ่าย หากติดเชื้อในช่องคอ อาจมีอาการเจ็บคอ อย่างไรก็ตามการติดเชื้อในตำแน่งใดๆก็ตาม อาจไม่มีอาการเลยก็ได้

    มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคหนองในไหม?

    การติดเชื้อหนองใน หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ (ภาวะ แทรกซ้อน หรือ ผลข้างเคียง) ตามมาได้ทั้งชาย และหญิง

     

    ในหญิงเนื้อเยื่อของปีกมดลูก จนทำให้มีบุตรยาก หรืออาจตั้งครรภ์นอกมดลูกที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ มักทำให้มีการอักเสบในอุ้งเชิงกราน (ช่องท้องน้อย) ทำให้มีอาการปวดท้อง มีไข้ อาจทำให้เกิดถุงหนองในช่องท้องน้อยที่รักษาหายยาก แล้วอาจทำให้มีอาการปวดท้อง โดยเฉพาะในช่องท้องน้อยเรื้อรัง มีการทำลาย

    ในชายเอชไอวี (HIV) หรือ โรคเอดส์ (AIDS) ได้ ซึ่งคนที่เป็นโรคหนองใน จะติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เป็นหนองใน (ทั้งในชาย และในหญิง) อาจทำให้เกิดการอักเสบของอัณฑะ และท่อนำอสุจิ ทำให้มีบุตรยาก เชื้อโรคอาจแพร่กระจายเข้าสู่ข้อกระดูก และ/หรือ กระแสเลือด (โลหิต) ซึ่งอาจมีอันตรายต่อชีวิตได้ อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่จะติดเชื้อ

    หากเป็นโรคหนองในระหว่างตั้งครรภ์จะมีผลอย่างไรบ้าง?

    ทารกที่คลอดทางช่องคลอดจะติดเชื้อโรคหนองในจากมารดาได้จากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอดของมารดา ซึ่งหากทารกติดเชื้อที่ตา อาจทำให้ตาบอด หรือ อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงกับอวัยวะอื่นๆ เป็นอันตรายต่อชีวิตทารกได้ ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์หากมีอาการ หรือเหตุอันน่าสงสัยว่า อาจติดเชื้อหนองใน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

     

    แพทย์วินิจฉัยโรคหนองในได้อย่างไร?

    แพทย์วินิจฉัยโรคหนองในได้จาก ประวัติทางการแพทย์ต่างๆ เช่น อาการต่างๆ เรื่องคู่นอน เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจร่างกาย การตรวจบริเวณอวัยวะเพศ การตรวจภายใน (ในผู้หญิง) การส่งตรวจหาเชื้อที่ป้ายจากแผล หรือ จากปากมดลูก ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก และ/หรือ ช่องคอ

     

    รักษาโรคหนองในอย่างไร?

    การรักษาโรคหนองใน คือ การใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งใช้ได้ผลดี แต่ในหลายพื้นที่อาจมีเชื้อดื้อยาได้ ดังนั้น หลังการรักษา ถ้ายังคงมีอาการ จึงควรต้องกลับมาปรึกษาแพทย์อีกครั้ง

     

    นอกจากนั้น จำเป็นต้องตรวจหาการติดเชื้อที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆที่อาจพบร่วมด้วยโดยเฉพาะ เชื้อ เอชไอวี (HIV) หรือ โรคเอดส์

     

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายาปฏิชีวนะจะรักษาโรคให้หายแล้ว แต่ยาปฏิชีวนะไม่สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ซึ่งเกิดจากภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวไปแล้วได้ นอกจากนั้น หากยังไปสัมผัสโรคอีก ก็กลับมาเป็นโรคอีกได้

     

    ควรดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเกิดโรคหนองใน? ควรพบแพทย์เมื่อไร?

    หากมีอาการปัสสาวะแสบขัด หรือมีอาการปวด หรือผื่นขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ ควรหยุดการมีเพศสัมพันธ์ แล้วรีบปรึกษาแพทย์ ถ้าแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคหนองใน และหลังได้รับการรักษาแล้ว เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำอีก ควรแจ้งให้คู่นอนมารับการรักษาด้วย และให้งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะหายดีแล้ว

     

    ควรดูแลตนเองอย่างไรเพื่อไม่ให้ติดโรค?

    สามารถหลีกเลี่ยงการติดโรคหนองในนี้ได้ด้วย การมีคู่นอนเพียงคนเดียว และจะแน่นอนยิ่งขึ้น หากคู่นอนได้รับการตรวจแล้วว่าไม่ติดเชื้อ UFABET นอกจากนี้การใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้


    votre commentaire
  • เริม หรือ โรคเริม UFABET (Herpes simplex) เป็นโรคทางผิวหนังที่พบได้มากอีกโรคหนึ่ง เจอได้ในทุกอายุ แม้กระนั้นมักพบกว่าในวัยเอ๊าะๆแล้วก็ในวัยผู้ใหญ่ จังหวะกำเนิดโรคใกล้ เคียงกันในเพศหญิงรวมทั้งในเพศชาย และก็จัดเป็นโรคติดต่อ

    โรคเริม

    โรคเริมกำเนิดได้ยังไง? ติดต่อไหม? ติดต่อเช่นไร?

     

    โรคเริมมีต้นเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส ชื่อ เฮอร์ปี ซิมเพล็กเชื้อไวรัส หรือ เรียกย่อว่า เอชเอสวี (Herpes simplex virus, HSV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสต่างจำพวกกับโรคงูสวัดแล้วก็โรคอีสุกอี ใส แม้ว่าจะทำให้กำเนิดตุ่มน้ำกับผิวหนังได้คล้ายกัน

     

    เชื้อไวรัส เอชเอสวี มี 2 ประเภทเป็นประเภท 1 (HSV-1) และก็จำพวก 2 (HSV-2) โดย เอช เอสวี-1 มักเป็นต้นเหตุติดเชื้อโรคในโพรงปากรวมทั้งริมฝีปาก ส่วนเอชเอสวี-2 มักเป็นต้นเหตุติดเชื้อโรคในอวัยวะสืบพันธุ์ข้างนอกและก็ในช่องคลอด แต่ว่าทั้งสองแบบบางทีอาจเป็นต้นเหตุติดเชื้อโรคกับเยื่อส่วนไหนก็ได้เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานขัดขวางโรคต่ำยกตัวอย่างเช่น ดวงตา เยื่อหุ้มสมอง รวมทั้งสมอง

     

    โรคเริมติดโรค/ติดต่อได้โดยการสัมผัสโดยตรงกับตุ่มแผลที่เป็นโรค จากน้ำ จากตุ่มพอง จากน้ำลาย จากสารคัดเลือกหลั่ง จากเมื่อใช้ข้าวของเครื่องใช้ด้วยกัน การจูบ การกิน จากมือติดเชื้อโรคป้ายตาก็เลยกำเนิดโรคที่ตา และก็เมื่อกำเนิดกับของลับ จะทำให้มีการติดเชื้อโรคทางเพศสโมสร (บ่อยมากผู้ที่กำเนิดโรคมีลักษณะอาการน้อยมาก ก็เลยไม่รู้เรื่องว่าเป็นโรค) แล้วก็ติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ขณะคลอด ถ้าเกิดขณะคลอดแม่ติดโรคนี้ที่ของลับ

     

    เมื่อติดโรคเริมมักไม่มีอาการอะไร แต่ว่าเชื้อจะอยู่ในตัวทั้งชีวิต ในปมประสาท คอยกระทั่งเมื่อร่างกายอ่อนแอลงก็เลยออกอาการ

     

    โรคเริมเป็นแล้วเป็นอีกได้เรื่อยบางเวลาบางทีอาจกำเนิดถึงปีละ 3 ครั้ง แม้กระนั้นจะเบาๆห่างไปเมื่อชราขึ้น

     

    โรคเริมในโพรงปากหรือที่ริมฝีปากชอบมีลักษณะอาการตามหลังตอนที่มีภูมิต้านทานขัดขวางต่ำ ตัวอย่างเช่น อาการเครียด พักน้อย อ่อนล้า ถูกแดดจัด ข้างหลังผ่าตัด หรือตอนมีรอบเดือน

     

    โรคเริมมีลักษณะอาการเช่นไร?

    อาการสำคัญของโรคเริมเป็น การเกิดตุ่มพองเล็กๆเจ็บ ถัดมากำเนิดเป็นตุ่มน้ำอย่างเร็วด้านใน 1 - 2 วัน ในตุ่มมีน้ำใสๆตุ่มมักกำเนิดเป็นกรุ๊ปๆลักษณะตุ่มเหมือนของโรคงูสวัดและก็ตุ่มโรคอีสุกอีใส แม้กระนั้นกำเนิดในตำแหน่งแล้วก็มีการแพร่ไปของตุ่มไม่ถูกกัน อาการเป็นอยู่ราวๆ 1 - 2 อาทิตย์และก็หายเองได้

     

    ก่อนหน้ากำเนิดตุ่มพอง บางทีอาจเหน็ดเหนื่อยแม้กระนั้นไม่มีอาการอื่น ก็เลยมักไม่รู้ตัวว่า ติดเชื้อโรค หรือบางบุคคลอาจมีอาการเหมือนหวัดนำก่อน 1 - 3 วันดังเช่นว่า ไข้สูง หรือ ไข้ต่ำ เมื่อยล้า เมื่อยตัว และก็เมื่อกำเนิดในปากบางทีอาจรับประทานอาหารแล้วเจ็บทำให้กินได้น้อย ซูบผอมลง

     

    โรคเริมหายได้เองข้างใน 1 - 2 อาทิตย์ แต่ว่าเมื่อรักษาด้วยการใช้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสมักช่วยทำให้โรคหายเร็วขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่ข้างหลังหายแล้วมักไม่กำเนิดเป็นแผลเป็น

     

    หมอวินิจฉัยโรคเริมได้เช่นไร?

    หมอวินิจฉัยโรคเริมได้จาก เรื่องราวอาการ การตรวจร่างกาย แล้วก็จากลักษณะตุ่มน้ำ แม้กระนั้นในบางบุคคลซึ่งอาการตุ่มน้ำคลุมเครือ หมอใช้แนวทางตรวจเลือดมองภูมิคุ้มกันโรคนี้

     

    รักษาโรคเริมได้เช่นไร?

    หมอรักษาโรคเริมได้ด้วยการให้รับประทานยารวมทั้ง/หรือป้ายยาต้านทานเชื้อไวรัส และก็การดูแลและรักษาช่วยเหลือตามอาการอาทิเช่น ยาพารา

     

    โรคเริมร้ายแรงไหม? ส่งผลข้างๆไหม?

    โดยธรรมดา โรคเริมไม่ร้ายแรงมักหายได้เองข้างใน 1 - 2 อาทิตย์ แต่ว่าเมื่อรัก ษาความสะอาดไม่ดี ตุ่มพองบางทีอาจเป็นหนองจากติดเชื้อโรคแบคทีเรียซ้ำ และก็เมื่อติดเชื้อโรคในตาจะมีผลถึงการมองมองเห็นได้ หรือบางครั้งบางคราวในคนมีภูมิต้านทานยับยั้งโรคต่ำ โรคบางทีอาจแพร่กระจายเป็นการติดโรคของเยื่อหุ้มสมองรวมทั้งของสมอง (โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือโรคสมองอักเสบ อาการสำคัญเป็น จับไข้สูง ปวดหัวมากมาย แขน/โคนขาแรง บางทีอาจชักรวมทั้งรุนแรง)

     

    เมื่อเป็นโรคเริมดูแลตัวเองเช่นไร? ควรจะเจอหมอเวลาใด?

    การดูแลตัวเองเมื่อกำเนิดโรคเริมแล้วก็การเจอหมอยกตัวอย่างเช่น

     

    การพักผ่อนหย่อนใจ

    รักษาสุขลักษณะรากฐาน (สุขข้อบังคับแห่งชาติ)UFABET คุ้มครองการตำหนิดเชื้อในเนื้อ เยื่อ/อวัยวะอื่นๆรวมทั้งสู่คนอื่น

    แยกสิ่งของ ของใช้ ส่วนตัว และถ้วยน้ำแล้วก็ช้อน

    กินน้ำสะอาดมากมายๆอย่างต่ำ 6 - 8 แก้วต่อวันเมื่อไม่มีโรคจะต้องจำกัดน้ำกิน ดังเช่น โรคหัวใจล้มเหลว

    รักษาความสะอาดรอบๆตุ่มพอง และก็ของใช้ต่างๆและก็ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวด้วยกันเพื่อคุ้มครองการต่อว่าดเชื้อ

    ตัดเล็บให้สั้น คุ้มครองป้องกันการเกา และก็ตุ่มน้ำติดโรคจากการเกา

    เมื่อกำเนิดโรครอบๆอวัยวะสืบพันธุ์ ควรจะใส่เสื้อผ้า กางเกงชั้นใน ที่หละหลวมสบาย และก็เลี่ยงการมีเซ็กส์ตอนนั้น

    รับประทานยาที่ช่วยบรรเทาปวดพาราเซตามอลแล้วก็ยาที่ช่วยบรรเทาอาการคัน โดยขอคำแนะนำเภสัชกรก่อนซื้อยารับประทานเองเสมอเพื่อให้มีความปลอดภัยสำหรับในการใช้ยา

    รีบเจอหมอเมื่อ

    ตุ่มพองแพร่กระจายมากมาย

    ไข้สูง ไข้ไม่ลงข้างใน 1 - 3 วัน (ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของอาการ)

    เริ่มมีลักษณะอาการทางดวงตา ดังเช่น เริ่มเจ็บตา เคืองตา ร้องไห้

    ตุ่มน้ำเป็นหนอง เพราะเหตุว่าจำเป็นต้องรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งควรจะให้ยาโดยหมอ

    เมื่อเป็นห่วงในอาการ

    รีบเจอหมอเร่งด่วนเมื่อเป็นไข้สูงร่วมกับปวดหัวมากมาย แขน/โคนขาแรง ชัก รวมทั้ง/หรือรุนแรง

    คุ้มครองป้องกันโรคเริมได้เช่นไร? มีวัคซีนไหม?

    ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคเริม แม้กระนั้นกำลังจะมีการศึกษาเล่าเรียนสร้างสรรค์อย่างต่อ เนื่องเพราะเป็นโรคพบมาก

     

    แนวทางคุ้มครองโรคเริมที่ยอดเยี่ยมเป็น รักษาสุขลักษณะเบื้องต้น (สุขข้อบังคับแห่งชาติ) และก็รับประทานอาหารมีคุณประโยชน์ห้ากลุ่มให้ครบห้ากลุ่มในแต่ละวัน พักให้พอเพียง รัก ษาอารมณ์/จิตใจไม่ให้เครียดUFABET แล้วก็ให้ข้างชายสวมถุงยางชายสำหรับในการมีเพศ สัมพันธ์เสมอ


    votre commentaire
  • โรคติดต่อทางเพศเป็นอย่างไร?

    โรคติดต่อทางเพศ หรือเรียกย่อว่า โรคเอสครั้งดี (Sexually transmitted disease /STD บางบุคคลเรียกว่าUFABET Sexually transmitted infection หรือเรียกย่อว่า โรคเอสคราวไอ/STI) ชาวไทยมักเรียกว่า กามโรค โรคชาย หรือโรคผู้หญิง (Venereal disease หรือเรียกย่อว่า โรควีดี/ VD) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสทางเพศ เชื้อโรคจะติดต่อจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งโดยผ่านทางเลือด น้ำกาม สารคัดเลือกหลั่งจากช่องคลอด หรือสารคัดเลือกหลั่งจากส่วนอื่นๆของร่างกาย ในบางคราว โรคติดต่อทางเพศชมรมบางทีอาจติดต่อได้แม้ว่าจะไม่มีการสัมผัสทางเพศก็ตาม ดังเช่นว่า จากแม่สู่เด็กอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นได้อีกทั้งในตอนที่มีครรภ์รวมทั้งจากการคลอด หรือบางทีอาจติดเชื้อโรคจากการได้รับเลือด หรือจากเข็มฉีดยาที่ใช้ด้วยกัน

    โรคติดต่อทางเพศ

    การติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมบางทีอาจเจอได้ แม้กระทั้งในเรื่องที่มีชมรมทางเพศกับบุคคลซึ่งดูมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะคนที่เป็นโรคบางทีอาจไม่ปรากฏอาการให้มองเห็นอย่างแจ่มแจ้ง

     

    ลักษณะโรคติดต่อทางเพศสโมสรคืออะไร?

    ลักษณะของโรคติดต่อทางเพศสมาคมมีนานัปการ บางทีบางทีอาจไม่ปรากฏอาการให้มองเห็นจวบจนกระทั่งมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้วจึงทราบดีว่าเป็นโรค หรือทราบดีว่าตนเองบางทีอาจติดเชื้อโรคก็เมื่อคู่รักได้รับการวิเคราะห์ว่าติดเชื้อโรคแล้ว

     

    อาการที่บางทีอาจชี้ว่าติดเชื้อโรคแล้ว มีดังต่อแต่นี้ไปเป็นลักษณะของการเจ็บ หรือมีก้อนบวม (Lump) หรือแผล ที่รอบๆปากแล้วก็ทวารหนัก ฉี่แสบขัด มีน้ำหรือหนองออกมาจากอวัยวะสืบพันธุ์ชาย หรือจากช่องคลอด มีเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติจากช่องคลอด มีต่อมน้ำเหลืองบวม หรือมีลักษณะปวดที่รอบๆต่อมน้ำเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขาหนีบ ฯลฯ

     

    หลังจากที่มีการสัมผัสโรค ช่วงเวลาที่จะปรากฏอาการ (ระยะฟักตัวของโรค) หรือมีรอยโรคเกิดขึ้น บางทีอาจใช้เวลา 2-3 วันจนกระทั่ง 3 เดือน ในบางราย อาการหรือรอยโรคที่ปรากฏบางทีอาจหายได้เองข้างใน 2-3 อาทิตย์แม้ว่าจะมิได้รักษาก็ตาม อย่างไรก็ตาม อาจมีการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ โรคที่เคยหายไปบางทีอาจร้ายแรงขึ้น แล้วก็นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ในตอนหลัง ฉะนั้นเมื่อมีการสัมผัสทางเพศกับคนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศชมรม หรือมีลักษณะ หรือมีรอยโรคที่ชักชวนสง สัยว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร ควรจะรีบหารือหมอ นอกจากนั้น ควรจะขอความเห็นหมอเพื่อตรวจคัดเลือกกรองโรคติดต่อทางเพศสมาคม (การตรวจโรคในขณะยังไม่มีอาการ) ตั้งแต่ทีแรกก่อนจะมีการสัมผัสทางเพศ และก็ควรจะตรวจเป็นช่วงๆตามหมอชี้แนะ หากแม้จะมีคู่รักเพียงผู้เดียวก็ตาม ในกรณีมีคู่รักหลายๆคน ควรจะตรวจโรคนี้ทุกหนก่อนและก็ข้างหลังมีคู่รักคนใหม่ หรือตามคำแนะนำของหมอ เพื่อคุ้มครองโรคติดต่อสู่คนอื่นๆ รวมทั้งเพื่อการดูแลและรักษาตนเองแม้กระนั้นเนิ่นๆ

     

    สิ่งที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีอะไรบ้าง?

    เชื้อโรคที่ส่งผลให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีดังนี้

     

    แบคทีเรีย อาทิเช่น โกโนเรีย หรือโรคหนองในแท้/โรคหนองใน, โรคซิฟิลิส /โรคซิฟิลิส, คลามัยเดีย (Chlamydia infection) หรือโรคหนองในเทียม

    พยาธิ ประเภท ทริวัวโมแนส (Trichomonas vaginalis)

    เชื้อไวรัส ตัวอย่างเช่น เชื้อ Human papillomavirus/HPV/เอชพีวี, เชื้อเริม/เริมที่อวัยวะสืบพันธุ์, เชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง/โรคภูมิคุมกันบกพร่อง หรือ Human immunodeficiency virus/HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง

    อนึ่ง การมีกิจกรรมทางเพศเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่การติดโรค แต่ เชื้อโรคบางชนิดบางทีอาจติดเชื้อโรคได้แม้จะไม่มีกิจกรรมทางเพศก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัสตับอักเสบ ประเภทเอ (เชื้อไวรัสตับอักเสบ เอ) แล้วก็ประเภทบี (เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี) ฯลฯ ที่บางทีอาจติดต่อจากการให้เลือด หรือการใช้เข็มฉีดยาด้วยกัน

     

    สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสโมสรมีอะไรบ้าง?

    สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญของโรคติดต่อทางเพศสมาคม เป็นการมีกิจกรรมทางเพศ โดยเฉพาะในเรื่องที่มิได้สวมถุงยางชายจำพวกลาเท็กซ์ (Latex condom) แล้วก็การมีเพศ สโมสรทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก กับคนที่เป็นโรคหรือผู้ติดโรค มีข้อมูลการค้นคว้าที่ทำให้เห็นว่า เพศหญิงที่ร่วมเพศเพียงแต่ครั้งเดียวกับเพศชายที่มีเชื้อโกโนเรีย หรือโรคหนองในแท้โดยไม่สวมถุงยางอนามัย จะได้โอกาสติดเชื้อโรคราว 70-80%

     

    การใส่ใส่ถุงยางชายที่ผิดแนวทาง หรือมีการสวมบ้างไม่สวมบ้างนั้น เป็นการเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดเชื้อโรค นอกนั้น การเสี่ยงจะเพิ่มสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว -ตามปริมาณของคู่รัก -ตามเรื่องราวเป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคม ซึ่งเมื่อเคยเป็นโรคประเภทหนึ่ง ก็จะมีผลให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสโมสรอีกประเภทหนึ่งได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังเช่นว่า ถ้าเกิดคุณเป็นโรคเริม/โรคเริมที่ของลับ, กามโรค/โรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้/โรคหนองใน, หรือโรคหนองในเทียม และก็ร่วมเพศกับคนที่มีเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง หรือ ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง/HIV กรณีนี้คุณได้โอกาสที่จะติดเชื้อโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องเพิ่มสูงมากขึ้น

     

    การติดเหล้า และก็/หรือสารเสพติด ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับการตกลงใจห่วยลง อันจะนำพาไป สู่การมีเพศสัม นธ์กับคนที่มีความประพฤติปฏิบัติเสี่ยงทางเพศได้

     

    การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนอื่นๆอาจจะส่งผลให้มีการติดเชื้อโรคกลุ่มนี้ได้ เป็นต้นว่า เชื้อไวรัส HIV หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี แล้วก็เมื่อติดโรคแล้ว ก็สามารถแพร่เชื้อต่อโดยผ่านการร่วมเพศได้อีกด้วย

     

    แล้วก็ในหญิงวัยรุ่น ซึ่งเซลล์รอบๆปากมดลูกยังรุ่งเรืองไม่สุดกำลัง ก็เลยมีการเปลี่ยนของเซลล์ตลอดระยะเวลา เซลล์ในระยะเวลาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้จะไวต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสโมสรได้อย่างสะดวกสบาย

     

    การตำหนิดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกนั้น เจอได้สำหรับการติดเชื้อโรคโรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, เริม และก็กามโรค โดยมีการติดโรคได้อีกทั้งในขณะตั้งท้องและก็ในขณะคลอด เด็กทารกที่ติดโรคจะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นตามมาออกจะมากมาย (ยกตัวอย่างเช่น เจริญวัยแตกต่างจากปกติแล้วก็ทุพพลภาพ) และก็บางทีอาจเสียชีวิตได้ ดัง นั้นสตรีที่ตั้งท้องจะต้องจำต้องได้รับการตรวจคัดเลือกกรอง รวมทั้งรักษาโรคต่างๆดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างเหมาะควร

     

    ควรจะจัดแจงก่อนเจอหมอเช่นไร?

    การตระเตรียมก่อนเจอหมอเป็นควรจะกระทำนัดแนะเพื่อเจอหมอ เขียนบันทึกอาการต่างๆที่เกิดขึ้น ยาที่เคยใช้ รวมทั้งกำลังใช้อยู่ ตลอดจนปริศนาที่อยากถามหมอ

     

    ปัญหาฐานรากที่ควรจะไต่ถามหมอ อาทิเช่น

     

    โรคติดต่อทางเพศชมรมที่คุณเป็น มีชื่อทางด้านการแพทย์ว่าอะไร?

    โรคดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีการติดต่อเช่นไร?

    มีแนวทางคุ้มครองป้องกันที่จะไม่ให้ติดไปสู่ลูกได้ยังไง?

    ถ้าเกิดมีการตั้งท้อง จะมีแนวทางคุ้มครองป้องกันไม่ให้ทารกในท้องติดเชื้อโรคได้หรือเปล่า?

    ถ้าหากรักษาหายแล้วจะกลับมาเป็นอีกได้หรือเปล่า?

    การมีเซ็กส์เพียงแต่ครั้งเดียวจะก่อให้ติดเชื้อได้ไหม?

    แพทย์มีความรู้สึกว่าฉันติดเชื้อโรคมานานเท่าใด?

    ช่วงเวลาที่กำลังรักษาจะมีเซ็กส์ได้ไหม?

    คู่รักต้องมาเจอหมอด้วยไหม? ฯลฯ

    เมื่อเจอหมอ คุณควรจะมอบบันทึกอาการหรือUFABET บอกกล่าวอาการต่างๆที่คุณเป็นให้หมอได้ รับทราบ ตลอดจนเรื่องราวมีเซ็กส์ หรือความประพฤติปฏิบัติทางเพศ

     

    หมอบางทีอาจถามคุณในสิ่งตั้งแต่นี้ต่อไป

     

    คุณมีความรู้สึกว่าคุณติดเชื้อติดต่อทางเพศสโมสรหรือเปล่า?

    ทำไม?

    คุณร่วมเพศกับเพศชายหรือสตรีหรือทั้งคู่เพศ?

    คุณมีชมรมทางเพศกับผู้เดียวหรือกับผู้คนจำนวนมาก?

    คุณร่วมเพศกับคู่รักคนเดี๋ยวนี้ (ผู้เดียวหรือคนไม่ใช่น้อยก็ตาม) เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเท่า ไหร่?

    คุณเคยฉีดยาให้ตนเองไหม?

    คุณเคยร่วมเพศกับคนที่ฉีดยาเสพติดหรือเปล่า?

    คุณรู้จักแนวทางปกป้องตนเองจากการติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมไหม?

    คุณคุมกำเนิดหรือเปล่า?

    คุมกำเนิดโดยแนวทางไหน?

    คุณเคยเป็นโรคโรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, โรคเริม/โรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์, โรคซิฟิลิส หรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง/ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องไหม?

    คุณเคยรักษาตกขาวไม่ปกติ, แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์, เยี่ยวแสบขัด หรือโรคติดเชื้อที่ของลับไหม?

    คุณร่วมเพศหนสุดท้ายเมื่อไร? ฯลฯ

    มีวิธีการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคอย่างไรบ้าง?

    ในเรื่องที่เรื่องราวมีเซ็กส์และก็อาการระบุว่าคุณอาจติดโรค การตรวจเพิ่มเติมอีกทางห้องทดลองจะช่วยรับรองการวิเคราะห์โรค แล้วก็ตรวจค้นโรคติดเชื้ออื่นๆที่บางทีอาจเจอร่วมได้

     

    การตรวจทางห้องทดลองเสริมเติม บางทีอาจทำเป็นโดยการตรวจ เลือด น้ำลาย และก็/หรือสารคัดเลือกหลั่ง ดังเช่น จากแผล แล้วก็จากน้ำฉี่ การตรวจคัดเลือกกรองโรคภูมิคุมกันบกพร่องในคนที่ไม่มีอาการ ทำเป็นโดยการวิเคราะห์เลือด หรือตรวจน้ำลาย

     

    ในสตรีที่ตั้งท้องทุกราย หมอจะกระทำการตรวจคัดเลือกกรองโรคภูมิคุมกันบกพร่อง, การตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี รวมทั้งโรคซิฟิลิส หมอจะกระทำตรวจคัดเลือกกรองโรคหนองในแท้ แล้วก็การต่อว่าดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี เสริมเติมเฉพาะในคนที่มีการเสี่ยงที่จะติดโรคดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ในสตรีที่มีเซ็กส์แล้ว หรือแก่ตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ควรจะเข้ารับการตรวจคัดเลือกกรองความไม่ดีเหมือนปกติของปากมดลูก ที่สำคัญดังเช่น การอักเสบ, ความเคลื่อนไหวของเซลล์ในระยะก่อนเป็นโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสิ่งกลุ่มนี้มีต้นเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัสที่มีชื่อเรียกว่า HPV/เอชพีวี

     

    ในเพศชายที่ร่วมเพศกับเพศชาย จะมีการเสี่ยงสูงสำหรับการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัม พันธ์ ฉะนั้นควรจะเข้ารับการตรวจคัดเลือกกรองโรคต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคภูมิคุมกันบกพร่อง, โรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, โรคเริม/โรคเริมของลับ, และก็การตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี อย่างต่ำปีละ 1 ครั้ง

     

    การตรวจคัดเลือกกรองการต่อว่าดเชื้อโรคหนองในแท้และก็โรคหนองในเทียม พึงกระทำในสตรีที่มีเพศ สโมสรแล้ว รวมทั้งควรจะทำอีกทุกคราวเมื่อเปลี่ยนแปลงคู่รักคนใหม่

     

    ในคนที่ติดเชื้อโรค HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง จะมีการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคมเพิ่มสูง ขึ้น ด้วยเหตุนั้นควรจะรับการตรวจคัดเลือกกรองโรคซิฟิลิส, โรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม แล้วก็โรคเริม นอก จากนี้หญิงที่ติดโรค HIV จะได้โอกาสสำหรับเพื่อการกำเนิดโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีความร้ายแรงมากมาย ดัง นั้นควรจะตรวจคัดเลือกกรองโรคมะเร็งปากมดลูก แล้วก็ตรวจค้นการตำหนิดเชื้อ HPV ปีละ 2 ครั้ง ในเพศชายที่ติดโรค HIV ควรจะตรวจคัดเลือกกรองการต่อว่าดเชื้อ HPV ที่ทวารหนักด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่ร่วมเพศทางทวารหนัก เนื่องจากว่าการต่อว่าดเชื้อดังกล่าวข้างต้นอาจจะส่งผลให้กำเนิดโรคมะเร็งทวารหนักได้

     

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นมาจากโรคติดต่อทางเพศสมาคมมีอะไรบ้าง?

    แนวทางคุ้มครองปกป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อน (ผลกระทบ) สาเหตุจากการเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร เป็นการตรวจคัดเลือกกรองเพื่อวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น รวมทั้งรีบให้การรักษา แบบนี้ก็เพราะผู้ติดโรคในระยะเริ่มต้นหลายรายชอบไม่มีอาการ ไหมมีความผิดธรรมดา

     

    ภาวะแทรกซ้อนที่บางทีอาจเจอได้ เป็นต้นว่า ลักษณะของการปวดหรือมีก้อนบวมที่แห่งใดก็ได้ภายในร่างกาย มีอา การเจ็บเป็นๆหายๆที่ของลับ มีผื่นแดงที่ผิวหนังทั่วร่างกาย มีลักษณะอาการเจ็บขณะมีเซ็กส์ มีลักษณะอาการเจ็บ บวม แดงที่ลูกอัณฑะ ปวดอุ้งเชิงกราน (ท้องน้อย) เรื้อรัง มีฝีหนองที่ขาหนีบ ดวง ตาอักเสบ ข้ออักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ (การตำหนิดเชื้อในอุ้งเชิงกราน) มีลูกยาก แล้วก็โรคมะเร็งที่อวัยวะอื่นๆดังเช่นว่า โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในผู้ติดโรค HIV โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งที่ลำ ไส้ตรง/โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือโรคมะเร็งทวารหนักในคนที่ติดเชื้อโรค HPV การตำหนิดเชื้อต่างๆในคนที่เป็นโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ตลอดจนการต่อว่าดเชื้อของลูกในท้องในหญิงมีท้องที่เป็นโรค อันจะมีผลให้เป็นอันตราย และก็ความไม่ปกติ/ความพิกลพิการโดยกำเนิดของเด็กอ่อนได้

     

    มีแนวทางรักษาโรคติดต่อทางเพศสมาคมเช่นไร?

    โรคติดต่อทางเพศชมรมที่เกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อแบคทีเรีย สามารถรักษาได้อย่างไม่ยากเย็น ส่วนโรคติดต่อทางเพศชมรมที่เกิดขึ้นมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส สามารถรักษาแล้วก็ควบคุมโรคได้ แม้กระนั้นชอบไม่หายสนิท ถ้าหากตรวจเจอว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศชมรมขณะท้อง การดูแลและรักษาที่สมควรจะสามารถลดการเสี่ยงของการตำหนิดเชื้อไปสู่ลูกในท้องได้

     

    การดูแลรักษามีสิ่งต่างๆตั้งแต่นี้ต่อไป ตัวอย่างเช่น

     

    การให้ยายาปฏิชีวนะเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อพยาธิ ดังเช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคซิฟิลิส รวมทั้งทริวัวโมแนส หรือการให้ยาต้านทานเชื้อไวรัส ในกรณีที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัม พันธ์ที่เกิดขึ้นจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส ยกตัวอย่างเช่น โรคเริม/โรคเริมที่ของลับ โรคภูมิคุมกันบกพร่อง ฯลฯ สุดแท้แต่กรณี การให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสทำให้สามารถควบคุมการตำหนิดเชื้อ HIV/ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง ได้นับเป็นเวลาหลายปี แม้เชื้อไวรัส HIV จะยังคงอยู่ภายในร่างกาย รวมทั้งสามารถถ่ายทอดสู่คนอื่นๆได้ก็ตาม ถ้าหากคุณสัมผัสกับคนที่ติดโรค HIV แล้วก็เริ่มกินยาด้านใน 28 วันหลังจากสัมผัสผู้ติดโรค คุณอาจเลี่ยงการติดโรคได้

    งดเว้นมีเซ็กส์จนกระทั่งจะรักษาโรคหายแล้ว

    การตรวจติดตามวันหลังการดูแลและรักษา เพื่อความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าหายจากโรคแล้วไหม ถ้าเกิดไม่อาจจะใช้ยาจากที่หมอสั่งได้ ควรจะหารือหมอเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษา

    การปกป้องการต่อว่าดเชื้อไปยังคู่รัก ถ้าพบว่าคุณเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร คุณควรจะบอกให้คู่รักของคุณคนเดี๋ยวนี้ รวมทั้งคู่รักในสมัยก่อนภายในช่วงระยะเวลา 3-12 เดือนรู้ เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาที่สมควรถัดไป ความประพฤติดังที่กล่าวมาแล้วจะช่วยลดการแพร่ของโรค ติดต่อทางเพศสโมสรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคซิฟิลิสแล้วก็โรคภูมิคุมกันบกพร่อง จากการที่โรคต่างๆที่กล่าวมาติด ต่อผ่านการสัมผัสทางเพศ ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าหากคู่รักของคุณติดเชื้อจากคุณ และไม่ได้รับการดูแลรักษาที่สมควร ถึงแม้คุณจะรักษาหายรวมทั้งตาม คุณก็ได้โอกาสที่จะติดโรคอีกรอบจากคู่รักของคุณได้

    แนวทางคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศชมรมมีอะไรบ้าง?

    การไม่มีเซ็กซ์เป็นแนวทางเหมาะสมที่สุดสำหรับในการคุ้มครองป้องกันการเป็นโรคติดต่อทางเพศชมรม (แม้กระนั้นเกิดเรื่องเป็นได้ยาก) นอกเหนือจากนั้น การไม่แปลงคู่รักบ่อยมาก ไม่มีคู่นอนหลายท่าน แล้วก็การอยู่กับคู่รักที่ไม่เป็นโรคติดต่อทางเพศสมาคมอย่างคงทน จะช่วยลดช่องทางการเป็นโรคได้ การฉีดยาคุ้มครองป้องกันการตำหนิดเชื้อ HPV (วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูก) และก็วัคซีนคุ้มครองป้องกันการต่อว่าดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สมควรก่อนจะเริ่มร่วมเพศจะช่วยลดช่องทางการต่อว่าดเชื้อไวรัสพวกนี้ได้ การฉีดยาคุ้มครองปกป้องการตำหนิดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ในประเทศไทย ชอบเริ่มตั้งแต่ขณะอยู่ในวัยเด็ก ส่วนการฉีดยาคุ้มครองการตำหนิดเชื้อ HPV ชอบเสนอแนะให้สตรีฉีดในช่วงอายุ 9-26 ปี

     

    ในกรณีที่จะร่วมเพศกับคู่รักคนใหม่ คุณแล้วก็คู่คนใหม่ควรจะเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสมาคมก่อนจะมีเซ็กส์

     

    ควรที่จะใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดช่องทางติดเชื้อ อย่างไรก็แล้วแต่แม้ใช้สารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อหล่อลื่นถุงยางประเภทลาเทกซ์ ความประพฤติดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะลดคุณภาพสำหรับเพื่อการปกป้องการติดโรคติดต่อทางเพศชมรม เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เนื้อยางเสีย การยืดหยุ่นของยางต่ำลง ถุงยางอนามัยก็เลยแตกได้ง่าย แล้วก็ยังลื่นหลุดได้ง่ายอีกด้วย

     

    ควรจะเลี่ยงการดื่มสุรามากจนเกินความจำเป็น แล้วก็การใช้ยาเสพติด เนื่องจากพฤติกรรมดัง กล่าว จะก่อให้คุณขาดความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการควบคุมตัวเอง และก็ทำให้เกิดการมีเซ็กส์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศชมรม

     

    ควรจะหลบหลีกการมีเซ็กส์กับไม่รู้จะ หรือการร่วมเพศกับคู่รักที่รู้จักทางอินเทอร์เนต ในบาร์ หรือสถานที่เที่ยวต่างๆเป็นการเพิ่มการเสี่ยงอย่างยิ่งสำหรับในการติดเชื้อโรค ติดต่อทางเพศชมรม

     

    ก่อนจะมีชมรมทางเพศ ควรจะเสวนาแล้วก็ตกลงกับคู่ของคุณในเรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัม พันธ์ที่ปลอดภัยว่า กิจกรรมใดที่ควรจะทำและไม่ควรจะทำ

     

    ในคนที่มีลูก ควรจะปลูกฝังให้มีความประพฤติทางเพศที่สมควรในวัยอันควรจะ เพราะการร่วมเพศขณะอายุยังน้อยจะเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย

     

    การร่วมเพศกับคู่เพียงผู้เดียวจะช่วยลดช่องทางการต่อว่าดเชื้อได้

     

    การขลิบอวัยวะสืบพันธุ์ชายจะช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการที่เพศชายจะติดเชื้อโรค HIV จากเพศหญิงที่เป็นโรคได้ถึง 50-60% นอกเหนือจากนั้นการขลิบยังช่วยลดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการติดโรค HPV และก็เริมได้อีกด้วย

     

    อนึ่ง วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีในตอนนี้จะคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกเฉพาะที่กำเนิดกับเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ย่อย 16 และก็ 18 (คุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งปากมดลูกได้ราว 70%) ไม่อาจจะคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกที่เกิดขึ้นจากสายพันธุ์ย่อยอื่นๆได้ แม้กระนั้นมีรายงานจากสถาบันจุฬาภรณ์ (พุทธศักราช 2556) ว่า ต้นสายปลายเหตุจำนวนมากของโรคมะเร็งปากมดลูกของหญิงไทย เป็นสายพันธุ์ย่อย 52 และก็รองลงมาเป็น 16 โดยเหตุนี้ การฉีดยานี้ก็เลยคงจะมีสาระน้อยในหญิงไทย

     

    จะประพฤติเช่นไรเมื่อเป็นโรคติดต่อทางเพศสโมสร?

    เมื่อสงสัยว่าตัวเองบางทีอาจติดเชื้อติดต่อทางเพศสโมสร ควรจะรีบหารือหมอ ควรจะงดเว้นการร่วมเพศเพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อไปยังบุคคลอื่น กระทั่งผลของการตรวจจะรับรองว่าคุณมิได้เป็นโรค หรือถ้าหากเป็นโรคก็ควรจะงดเว้นการมีเซ็กส์ กระทั่งคุณจะรักษาโรคกระทั่งหายก็ดี

     

    การเป็นโรคติดโรคทางเพศสมาคม นำมาซึ่งผลด้านจิตใจค่อนข้างจะมากมาย คุณอาจรู้สึกโกรธเหมือนกับถูกคิดคดทรยศจากผู้ที่คุณรัก ละอายเมื่อทราบว่าโรคที่เป็นบางทีอาจติดไปสู่คู่รักของคุณได้ และก็ที่ห่วยแตกที่สุดเป็น โรคบางสิ่งบางอย่างอาจจะทำให้คุณป่วยหนักตลอดชาติ รวมทั้งเสียชีวิตได้ ทั้งบางทีอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในเรื่องชีวิตครอบครัว การมีลูก ตลอดจนทัศนคติต่อการมีเซ็กส์

     

    อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่สมควรโทษผู้ใดกันแน่ การได้รับเชื้อบางทีอาจมิได้มีเหตุที่เกิดจากคู่รักคนปัจจุบันนี้ แม้กระนั้นอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากคู่รักคนเดิมที่ผ่านมาของคุณUFABET  หรือของคู่รักคนเดี๋ยวนี้ หรือทั้งสอง

     

    สิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็น การเรียนที่จะปกป้องการติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมตั้งแต่วันนี้ดังได้กล่าวแล้ว


    votre commentaire